จากการดูดวงดาวของอาจารย์โสรัจจะ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2563 บอกว่า ปีฉลู ยังเป็นปีที่ร้อนแรงมากในเกือบทุกด้าน เพราะดาวมฤตยู ยังคงอยู่ทับลัคนาดวงเมือง ทำให้ต้องเจออะไรอีกมากมาย หรือจะเรียกว่า “ปีวัวกระทิงไฟ” เป็นวัวที่ทั้งชน ทั้งเจออะไรที่ดุเดือด
ดวงเมือง-เศรษฐกิจ ปี 64 ไม่ปกติ อภิมหากลียุค
สำหรับสถานการณ์การเมืองในปี 2564 เนื่องจากมีดาวมฤตยูยังทับดวงเมืองอยู่ในลัคนาราศีเมษ แล้วยังอยู่ไปถึงกลางปี 2565 ถึงจะย้ายออกไป เพราะฉะนั้นในปี 2564 เป็นช่วงอยู่ระหว่างกลาง เป็นช่วงปีที่หนัก แล้วเรายังเจอดาวเสาร์ที่อยู่ในราศีมังกร เพิ่งย้ายมาตั้งฉากอยู่อย่างนี้ไปอีกระยะยาว และจะมีดาวอังคารและดาวศุกร์ ย้ายมาอยู่ราศีกรกฎ มาเล็งกับดาวเสาร์มาตั้งฉากกับดาวมฤตยู ในเดือนมิถุนายน 2564 ทำให้ช่วงเดือนนี้ จะเจอเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
ในเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง จะเจอตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม โดยสิ่งที่ต้องระวัง คือสงครามกลางเมือง เหมือนเหตุการณ์เริ่มแค่ “น้ำผึ้งหยดเดียว” ไม่ใช่เกิดเฉพาะในกรุงเทพมหานคร แต่เกิดทั่วทั้งประเทศ ดังนั้นเราจะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงขนาดนั้น แต่ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ในหลายปีที่ผ่านมา มันคนละเหตุการณ์ แต่ความยิ่งใหญ่คือใหญ่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมา ซึ่งพูดตามดวงดาวไม่ได้พูดตามเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นหรืออะไร
“อย่างที่บอกเดือนมิถุนายน ดาวมันตั้งฉากกันหมดและเป็นดาวสงครามทั้งนั้นเลย แล้วก็ระเบียบแบบแผนเราจะเปลี่ยนไป อะไรที่เคยอยู่ในระเบียบจะเริ่มไม่อยู่ รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ ของเราเริ่มจะมี ไอเอ็มเอฟ เข้ามามีบทบาท ถ้าเกิดขึ้นน่าจะหนักกว่า ปี 2540 เพราะมันไม่ได้เหมือนกับเหตุการณ์ในตอนนั้นยังมีอะไรมาช่วยได้ แต่ครั้งนี้เราจะไปเจอทางตันได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวและเตรียมใจด้วย ไม่ว่าใคร อยู่ในสถานะอะไร อันดับแรกที่ชัดคือ การตกงาน”
ปี 2564 จะเห็นข่าวโรงงานทยอยปิดกันทุกเดือน ซึ่งไม่ปกติเป็นปี “อภิมหากลียุค” เพราะเกี่ยวกับความขัดแย้งและปัญหาเงินทอง รวมถึงอาหารการกินจะขาดแคลน โดยการแก้ไขอันดับแรก คือทำบุญ ทำกันแบบจริงใจ เริ่มตั้งแต่ผู้นำรัฐบาล เหมือนมีใครสักคนเป็นห่วงเป็นใย เมื่อมีคนเริ่มทำก็จะมีคนทำตาม ทั้งที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน ทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลาย ช่วยให้เบาลง จากการทำบุญให้เป็นวาระแห่งชาติ ทำเป็นประจำ หวังว่าจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้
มิ.ย. การเมืองไร้ทางออก เสี่ยงยุบสภา เกิดสงคราม
นอกจากนี้ในปี 2564 มีโอกาสยุบสภา เพราะอาจจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ จะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และในช่วงเดือนมิถุนายนจะใหญ่สุด ถ้าปล่อยให้เลยไปตรงนั้น จะเกิดเป็นสงครามได้ และดวงยุบสภาอาจช่วยแก้ไขเหตุการณ์ได้เล็กน้อย เพราะเป็นไปตามดวงดาว ซึ่งไม่ได้ถูกต้องทุกเรื่อง เป็นเพียงการชี้ทางนำทางเท่านั้น เทียบแล้วคำทำนายมาจากดวงดาว 50% และอยู่ในมือผู้นำอีก 50% แต่การทำบุญจะช่วยได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์
“หลังเดือนมิถุนายน ถ้าตามดวงดาวมันน่าจะยังไม่มีการเลือกตั้ง ยังไม่ทราบว่าจะเกิดอะไร มันเป็นช่องว่างสุญญากาศอยู่ ซึ่งจะเป็นช่วงแบบนี้ไปจนถึงปี 2565 ตามดาวมฤตยูเลย”
ผ่าดวง นายกฯ ต้องทำบุญมากๆ อาจดีขึ้น
ดวงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีอะไรที่พัวพันเกี่ยวข้องกับดวงเมืองเป็นอย่างมาก เป็นปีที่สำคัญกับพล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด ถ้าจะเกิดอะไรก็จะมีภายในปีนี้ แต่อยากให้ทำบุญมากๆ หรือจะเป็นผู้นำทำบุญประเทศก็ได้ ทำบ่อยๆ อาจจะดีขึ้น
ส่วนดวงผู้นำในอนาคต ถ้าตามดวงน่าจะเป็นผู้ชาย อยู่ในสาขาอาชีพอาจจะไม่เกี่ยวกับนักการเมืองก็ได้ ถ้าเป็นข้าราชการก็อาจจะเกษียณแล้ว เป็นคนมีความรู้ แต่ว่าไม่ออกมาทางการเมืองตรงๆ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต และอาจเป็นนักธุรกิจ เป็นไปได้หมด น่าจะปรากฏตัวในปลายปีหน้า เป็นผู้เล่นใหม่ที่มาทำให้เหตุการณ์ความขัดแย้งเบาลง ขณะที่เหตุการณ์ปฏิวัติ จะมีช่วงหนึ่งที่เป็นไปได้ในช่วงเดือนมิถุนายน
