ชาวคริสต์ ดูดวงได้ไหม? พระคัมภีร์ระบุว่าอย่างไร เป็นบาปหรือไม่

“การเมือง ศาสนา ความรัก และฟุตบอล” ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในการพูดคุยกัน แม้ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อน คนในครอบครัว ก็อาจมีความคิดเห็นเรื่องเหล่านี้ที่ไม่ตรงกับ นำไปสู่ประเด็นขัดแย้ง และเกิดเป็นรอยแยกทางความรู้สึก แม้กระทั่งการดูดวง ซึ่งเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ผูกกับความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็ขัดกับความเชื่อทางศาสนาของบางคนเช่นกัน

พระคัมภีร์ระบุห้ามไม่ให้เป็นหมอดู ดูดวง แต่ทางสังคมถือเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล

จากบทความของ ศจ.ดร.ธีระ เจนพิริยประยูร เว็บไซต์คริสตจักรใจสมาน ระบุว่าพระคัมภีร์สั่งห้ามชัดไม่ให้เป็นหมอดู และไม่ให้ไปดูหมอ หรือดูดวง โดยในเนื้อหารายละเอียดนั้น อธิบายอยู่ในพระคัมภีร์หลายตอน ว่าห้ามไม่ให้บุตรหลานของชาวคริสต์ เป็นคนทำนาย เป็นหมอดู ห้ามไม่ให้ประพฤติตนเป็นศาสดาจารย์

“ฉธบ. 18:10-12 ห้ามใครในพวก‍ท่านยอมให้บุตร‍ชาย หรือบุตร‍หญิงของตนลุย‍ไฟ เป็นคนทำ‍นาย เป็นหมอ‍ดู เป็นโหร หรือเป็นนัก‍วิท‌ยา‌คม เป็นหมอ‍ผี เป็นคนทรง เป็นพ่อ‍มด แม่‍มดหรือเป็นหมอ‍พราย ทุกคนที่ทำสิ่ง‍เหล่า‍นี้ย่อมเป็นที่รัง‍เกียจแด่พระ‍ยาห์‌เวห์ และเพราะสิ่ง‍พึง‍รัง‍เกียจเหล่า‍นี้ พระ‍ยาห์‌เวห์พระ‍เจ้าของท่านจึงทรงขับ‍ไล่พวก‍เขาไปพ้น‍หน้าท่าน

ยรม. 27: 9 เพราะฉะนั้นอย่าฟังผู้พยากรณ์ หรือพวกโหรหรือคนช่างฝันของเจ้า หรือหมอดูหรือนักวิทยาคมของเจ้า ผู้ซึ่งกล่าวแก่เจ้าว่า “ท่านจะไม่ปรนนิบัติกษัตริย์แห่งกรุงบาบิโลนดอก”

นอกจากคริสเตียนแล้ว ชาวคริสตชน ซึ่งตามความหมาย คือ ผู้นับถือพระคริสตเจ้า ไม่ว่าจะนิกายไหน คาทอลิก ออร์โธดอกซ์ โปรเตสแตนต์ ก็คือผู้ที่เชื่อในพระเจ้า และการมีอยู่ของศาสนจักร

ตามระบุในพระคัมภีร์ของชาวคริสต์ในแต่ละนิกาย มีความเชื่อในทางเดียวกันว่า พระเจ้าได้สร้างสิ่งที่ดีที่สุดไว้แล้ว

พระคัมภีร์ (สุภาษิต 3:5-6) ระบุว่า “ความไว้ใจของเราอยู่ในพระเจ้าเพียงผู้เดียวและเรารู้ว่าพระองค์จะทรงนำทางเรา ความเชื่อในสิ่งใดนอกจากพระเจ้านั้นผิด”

เพราะฉะนั้นแล้ว ชาวคริสต์ที่มีศรัทธาต่อพระเจ้า จึงมีความเชื่อว่าการดูดวงนั้นเป็นบาปอย่างหนึ่ง จะเป็นบาปเล็ก หรือบาปใหญ่ นั้นขึ้นอยู่กับบริบท

แม้กระทั่งศาสนาพุทธเอง พระพุทธเจ้าก็บัญญัติธรรมว่า ไม่ให้พระสาวก แสดงธรรมอภินิหาร แต่เรื่องการดูดวงนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องปัจเจก ซึ่งการแสดงความคิดเห็นว่าควรทำ หรือ ไม่ควรทำ นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อจิตใจของผู้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว หากจะพูดเรื่อง “การเมือง ศาสนา ความรัก ฟุตบอล” ก็ควรนึกถึงใจเขา ใจเรา